การต่อความต้านทาน


ความต้านทานไฟฟ้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้า  



จากกฎของโอห์ม ความต้านทานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการไหลของกระแสไฟฟ้า ดังนั้นความต้านทานไฟฟ้าในตัวนำไฟฟ้าและในเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงเป็นอุปสรรคของการไหลของกระแสไฟฟ้าที่จะนำพลังงานไฟฟ้าไปส่งให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า

                   ในบทเรียนนี้นักเรียนจะได้ศึกษาเรื่อง ความต้านทานไฟฟ้า การต่อความต้านทานไฟฟ้า การคำนวณค่าความต้านทานไฟฟ้ารวม 

ความหมายและสัญลักษณ์
            ความต้านทานไฟฟ้า หมายถึง สถานะที่เกิดขึ้นบนตัวนำไฟฟ้าเพื่อต่อต้าน หรือขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า  ซึ่งตัวนำไฟฟ้า ได้แก่  โลหะที่ทำเป็นลวดตัวนำไฟฟ้า และส่วนใหญ่จะเป็นส่วนประกอบภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เช่น สายไฟฟ้า แผ่นหรือลวดความร้อนของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนเช่น เตารีด  หม้อหุงข้าว  หรือเป็นส่วนประกอบภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง เช่น ไส้หลอดไฟฟ้าทุกชนิด  แบลลัสต์ เป็นต้น   ดังนั้นเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นก็คือ  ตัวต้านทานไฟฟ้า หนึ่ง ๆ นั่นเอง
             ความต้านทานไฟฟ้า หรือตัวต้านทานไฟฟ้า  เขียนแทนด้วยอักษร " R


         จะมีหน่วยเป็น โอหม์ (   
)          สัญลักษณ์ เป็นรูป     

           การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรือ ความต้านทานไฟฟ้าหลาย ๆ ชิ้นมาต่อกันอย่างไรจึงทำให้สามารถเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้พร้อมกัน
 
การต่อความต้านทานไฟฟ้า 


การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรือ ความต้านทานไฟฟ้าหลาย ๆ ชิ้นมาต่อกัน ได้  3 แบบ  ดังนี้   
  
 1.  การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบอนุกรม
     คือ การนำเอาตัวต้านทานไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือหลอดไฟฟ้า มาต่อเรียงตามลำดับ ดังภาพ
                       
                                        สัญลักษณ์การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบอนุกรม
               

การหาความต้านทานไฟฟ้ารวมแบบอนุกรม
 
เมื่อพิจารณาจากรูป การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือความต้านทานไฟฟ้าแบบอนุกรม  จะพบว่า

 1.  กระแสไฟฟ้า (  I  ) ที่ไหลผ่านความต้านทานไฟฟ้าแต่ละตัว จะมีค่าเท่ากัน



2.  ความต่างศักย์ไฟฟ้า  แต่ละตัวไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับค่าความต้านทานไฟฟ้าแต่ละตัว

        ดังนั้น      ความต่างศักย์ไฟฟ้ารวม 

             นั่นคือ           

         จากกฎของโอห์ม               V        =       IR                                     



   แทนค่าลงใน   Vรวม  จะได้        
 

จากข้อ 1.  กระแสไฟฟ้า ( I ) เท่ากันทุกตัว  เอา  หารตลอด



                จะได้        

                                           ดังนั้น การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบอนุกรม จะได้สูตรดังนี้     

สูตรที่ 1 Rรวมแบบอนุกรม

2. การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบขนาน


                   คือ การนำเอาตัวต้านทานไฟฟ้าหลาย ๆ ตัว หรือเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ ตัวมาต่อรวมกันให้เป็นกลุ่ม  โดยปลายของตัวต้านทานไฟฟ้าทุกตัวรวมกันเป็นจุด ๆ หนึ่ง และนำปลายอีกข้างหนึ่งของตัวต้านทานไฟฟ้าทุกตัวรวมกันเป็นจุด ๆ หนึ่ง  ดังภาพ
การต่อความต้านทานแบบขนาน
สัญลักษณ์การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบขนานในวงจร


เมื่อพิจารณาจากภาพ การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือความต้านทานไฟฟ้าแบบขนาน  จะพบว่า


 1. กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านจุด A  จะแยกไหลผ่านความต้านทานไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่

    ละตัวไม่เท่ากัน

 2.  ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างขั้วของความต้านทานไฟฟ้าแต่ละตัวจะมีค่าเท่ากัน และจะ

      เท่ากับความต่างศักย์ไฟฟ้ารวม

        จากข้อที่ 1 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านจุด  ย่อมเท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลออกจากจุด B


            จากกฎของโอห์ม          V           =           IR            และ        

           แทนค่าลงใน     Iรวม      จะได้                  
      
      จาก ข้อ 2.  ความต่างศักย์ไฟฟ้าแต่ละสายจะมีค่าเท่ากัน   เอา  หารตลอด  จะได้ว่า            


      ดังนั้น การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบขนาน จะได้สูตรดังนี้
   
สูตรที่ 2 Rรวมแบบขนาน

     

3. การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบผสม 

      
   คือ การนำเอาความต้านทานไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการต่อกันทั้งแบบอนุกรมและทั้งแบบขนานมาต่อรวมกันอยู่ในวงจรเดียวกัน   ซึ่งการคำนวณหาค่าความต้านทานไฟฟ้ารวม จะต้องหาความต้านทานไฟฟ้าย่อยของการต่อแบบอนุกรม  หรือแบบขนานก่อนก็ได้  แล้วจึงมาหาค่าความต้านทานไฟฟ้ารวมของทั้งหมด



ภาพ  การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบผสม

สรุปสูตรที่ใช้ในการคำนวณ

1.  กฏของโอห์ม           V   =    IR

2.  การหา Rรวม แบบอนุกรม
3. การหา Rรวม แบบขนาน


              ในบทต่อไปนักเรียนจะได้เรียนรู้ การนำเอาความต้านทานไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามต่อร่วมกันเป็นวงจรไฟฟ้า




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น