กำลังไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า



                                               กำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้า

        เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวก ความสบายให้กับคนเราเป็นอย่างมาก    เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานรูปอื่น ๆ ได้ ตามที่ต้องการ  ดังที่นักเรียนได้ศึกษามาแล้ว  แต่เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้ปริมาณพลังงานไฟฟ้าไปเปลี่ยนรูปได้แตกต่างกัน  ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้าและระยะเวลาในการเปิดใช้งาน  เช่น  เครื่องซักผ้าไฟฟ้า กับหม้อหุงข้าวไฟฟ้า   ถ้าเปิดใช้งานในเวลาเท่ากัน  นักเรียนคิดว่าจะสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเท่ากันหรือไม่     และถ้าหม้อหุงข้าวไฟฟ้าชนิดเดียวกัน ขนาดเท่ากัน แต่เปิดใช้งานเป็นเวลานานไม่เท่ากัน    นักเรียนคิดว่าจะสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเท่ากันหรือไม่ 
                   พลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ไปในการเปลี่ยนรูปให้เป็นพลังงานรูปอื่นในเวลา 1 วินาที เรียกว่า กำลังไฟฟ้า ( Electric  Power )

กำลังไฟฟ้า  ( Electric  Power )
 
  กำลังไฟฟ้า  หมายถึง พลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดใช้ไปในการเปลี่ยนรูป ในเวลา  1  วินาที       ซึ่งเขียนเป็นความสัมพันธ์ได้ดังนี้        

                                                        

                 กำหนดให้

                                             P      =      กำลังไฟฟ้า         มีหน่วยเป็น       วัตต์ ( Watt )

                                             W     =     พลังงานไฟฟ้า      มีหน่วยเป็น       จูล  ( J )
                                              t      =      เวลา                  มีหน่วยเป็น       วินาที  ( S )  
 



                ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ทุกขนาด จึงต้องคำนวณค่ากำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น   ค่ากระแสไฟฟ้า    ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า  และค่าอื่น ๆ โดยพิมพ์เป็นฉลากติดไว้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด    หรือ พิมพ์ติดไว้บนหลอดไฟฟ้า


                                         ภาพ  ฉลากตัวอักษรและคุณสมบัติของเครื่องใช้ไฟฟ้า





                                       ภาพ  ฉลากตัวอักษรและคุณสมบัติของเครื่องใช้ไฟฟ้า



        เมื่ออ่านฉลากบนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแต่ละชนิด  จะพบว่ามีตัวอักษรและตัวเลขที่ระบุสมบัติเกี่ยวกับ  เช่น   ความต่างศักย์ไฟฟ้า ( โวลต์ - V )  และกำลังไฟฟ้า ( วัตต์ - W )    กำกับไว้ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้  ตัวอย่างเช่น บนหลอดไฟฟ้ามีตัวเลขกำกับว่า  60  W  200  หมายความว่า  หลอดไฟฟ้าดวงนี้มี กำลังไฟฟ้า  60  วัตต์ และมีความต่างศักย์ไฟฟ้า 200 โวลต์ เท่านั้น    

               กำลังไฟฟ้า  60  วัตต์  บอกถึงปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่หลอดไฟฟ้าใช้ไปในเวลา  1  วินาที ดังนั้น ขณะที่เปิดไฟ  หลอดไฟฟ้าดวงนี้จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้า  60  จูล ในเวลา 1 วินาที นั่นเอง



 [ กำลังไฟฟ้า 1 วัตต์ คือ  กำลังไฟฟ้าที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า  1  แอมแปร์ ไหลผ่านตัวนำไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์ไฟฟ้า  1  โวลต์ ]



       กำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้น ที่แสดงบนฉลากด้านข้างของเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าไปในเวลา 1 วินาที   แต่ในความเป็นจริง บ้านเรือนทั่วไปจะเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากันนานนับเป็นชั่วโมงทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามาก ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน หรือ   ผู้ใช้ไฟฟ้าที่จะต้องหาปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้ไปตามจำนวนเวลาที่เปิดใช้
         จาก    
       ดังนั้น                          พลังงานไฟฟ้า    =     กำลังไฟฟ้า  x  เวลา


       หรือ   เราจะได้สูตรความสัมพันธ์ใหม่ว่า
       จาก
                                                  W      =      Pt




               ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณทางไฟฟ้ากับกำลังไฟฟ้า          



   จากบทเรียนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า  ดังที่นักเรียนได้ศึกษามาแล้วจากเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เล่ม 2  เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้า  จะได้ว่า



                            "  กระแสไฟฟ้า จะแปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์ไฟฟ้า "


     และนักเรียนก็ทราบมาแล้วว่า  กระแสไฟฟ้าจะเป็นตัวนำพลังงานไฟฟ้ามาส่งให้เครื่องใช้ไฟฟ้า  ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าน้อย  เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้รับพลังงานไฟฟ้าน้อย แต่ถ้า กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก  เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้รับพลังงานไฟฟ้ามาก

        นั่นคือ                      "  กระแสไฟฟ้าแปรผันโดยตรงกับพลังงานไฟฟ้า  "

        แต่ขณะเดียวกัน       "   พลังงานไฟฟ้า แปรผันโดยตรงกับ กำลังไฟฟ้า  "

        ดังนั้น    กำลังไฟฟ้า จะแปรผันโดยตรงกับ กระแสไฟฟ้า และความต่างศักย์ไฟฟ้า



        นั่นคือ                   กำลังไฟฟ้า     =    กระแสไฟฟ้า  ความต่างศักย์ไฟฟ้า

        หรือ เราจะได้สูตรความสัมพันธ์ใหม่ว่า


                                                                        P     =    I V
          กำหนดให้

                                                P       =      กำลังไฟฟ้า         มีหน่วยเป็น       วัตต์ ( Watt )

                                                 I       =       กระแสไฟฟ้า       มีหน่วยเป็น       แอมแปร์   ( A )

                                                 V      =      ความต่างศักย์ไฟฟ้า     มีหน่วยเป็น      โวลต์ ( V )  



               ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังทำงาน เช่น กำลังเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นแสงสว่าง   หรือให้พลังงานความร้อน   หรือให้พลังงานกล   ให้พลังงานเสียง   เมื่อเวลาใช้งานเพิ่มขึ้น ย่อมเกิดความต้านทานไฟฟ้าขึ้น ทำให้พลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน  เรียกว่าเกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า  ทำให้ค่า กำลังไฟฟ้า ( P )    กระแสไฟฟ้า ( I )   ความต่างศักย์ไฟฟ้า ( V )  มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย  จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง  เกิดความร้อนสูง   สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามาก


ดังนั้น   จากสูตรความสัมพันธ์ของกำลังไฟฟ้า

  

                                                             P     =    I V



               เมื่อนำกฎของโอห์ม แทนลงในกำลังไฟฟ้า ซึ่งก็สามารถคำนวณหาค่าความต้านทานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังทำงาน  ได้ดังนี้

               จากกฎของโอห์ม                     V      =      I R

               แทนค่า  V   =   IR    ลงในกำลังไฟฟ้า ( P )



               นั่นคือ                                      P     =    I V



                                                              P     =    I ( IR )

                                                                  
     

  เราจะได้สูตรความสัมพันธ์อีกหนึ่งสูตรว่า


  
   และ จากกฎของโอห์ม                           V      =      I R
                                                                  

























































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น