อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน
เครื่องใช้ต่าง ๆ
ภายในบ้านส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้เป็นเพราะพลังงานไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปอื่น ตามความต้องการได้โดยง่าย และอีกทั้งเทคโนโลยีในการประดิษฐ์และผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับพลังงานไฟฟ้าได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นก่อนที่นักเรียนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง
ๆ มาใช้ภายในบ้านนั้น บ้านของนักเรียนจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง
ๆ ที่ใช้ในวงจรไฟฟ้าภายในบ้านให้เสร็จก่อน
เพื่อที่จะได้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างสะดวก
และเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน จะประกอบด้วย สายไฟฟ้า
ฟิวส์ สวิตช์ สะพานไฟ เต้ารับและเต้าเสียบ เป็นต้น
1. สายไฟฟ้า
สายไฟฟ้า เป็นโลหะตัวนำไฟฟ้า ที่ใช้ส่งพลังงานไฟฟ้าจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง โดยกระแสไฟฟ้านำพลังงานไฟฟ้าผ่านไปตามสายไฟฟ้า สายไฟฟ้าทำด้วยสารที่เป็นตัวนำไฟฟ้า
ภาพ สายไฟฟ้าและฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า
โลหะที่ใช้ทำลวดตัวนำไฟฟ้า จะมีขนาดต่าง ๆ กัน
และความต้านทานไฟฟ้าของเส้นลวดตัวนำไฟฟ้าจะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
ลวดตัวนำไฟฟ้าที่มีความต้านทานไฟฟ้ามาก
จะทำให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้น้อยลง ดังกราฟ
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความนำไฟฟ้าหรือกระแสไฟฟ้ากับ
ความต้านทานไฟฟ้า
เมื่อความต่างศักย์ไฟฟ้าคงที่
การแบ่งประเภทของสายไฟฟ้า
สายไฟฟ้า สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ
สายไฟฟ้าชนิดนี้ถูกห่อหุ้มด้วย
ยาง PVC ด้ายถัก มีความทนทานต่อดินฟ้าอากาศ ไม่ติดไฟ ทนความร้อน แข็งเหนียว ไม่เปื่อยง่าย นิยมใช้งานมากที่สุด สายไฟฟ้าชนิดนี้ใช้เดินภายในอาคาร นิยมใช้ร้อยในท่อแล้วยึดท่อกับผนัง
หรือฝังท่อในเสาหรือพื้น
ภาพ สายไฟฟ้ามีฉนวนหุ้ม ร้อยผ่านท่อภายในอาคาร
2) สายไฟฟ้าที่ไม่มีฉนวนห่อหุ้มภายนอก
สายไฟฟ้าที่ไม่มีฉนวนหุ้ม หรือเรียกว่า สายเปลือยใช้เป็นสายไฟฟ้าแรงสูง ทำจากเส้นลวดอะลูมิเนียมล้วนขนาดเท่า ๆ กัน
พันตีเกลียวเป็นชั้น ๆ ไม่มีฉนวนหุ้ม ซึ่งต้องขึ้งไว้ในที่สูงและมีลมพัดผ่านตลอดเวลา
เป็นการระบายความร้อนให้กับสายไฟฟ้า
ทำให้สายไฟฟ้าไม่เกิดความร้อนสายเปลือยใช้กับระบบไฟแรงสูงที่มีแรงดัน 11 กิโลโวลต์ขึ้นไป สายเปลือยที่นิยมใช้งาน
ได้แก่สายอะลูมิเนียม เพราะมีน้ำหนักเบาและราคาถูก
ในการเลือกใช้สายไฟฟ้า
ที่ใช้เดินภายใน หรือภายนอกอาคาร ต้องคำนึงถึงขนาดของสายไฟฟ้า คือ ให้โตพอเหมาะเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า
สายไฟฟ้าที่ร้อนจัดเกินไปจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นใดที่กินกระแสไฟฟ้ามาก
กระแสไฟฟ้าย่อมไหลผ่านสายไฟฟ้าเป็นปริมาณมากเช่นกัน การเลือกใช้สายไฟฟ้าขนาดใดนั้น
ควรดูจากตัวอักษรที่กำกับอยู่บนสายไฟฟ้า ( ดังภาพ )
ภาพ ตัวอักษรกำกับบนสายไฟฟ้า
จากภาพตัวอย่าง สายไฟฟ้ามีตัวอักษรกำกับ
ดังนี้ 300
V 70 °C
P.V.C 2 × 2.5 SQ mm. ความหมายว่า สายไฟฟ้าเส้นนี้ ใช้กับความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงสุดได้ไม่เกิน
300 โวลต์ ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูงสุดได้ไม่เกิน 70
องศาเซลเซียส สายไฟฟ้านี้ใช้ P.V.C.
หุ้มเป็นฉนวน ภายในเป็นสายไฟฟ้า 2
เส้นคู่ โดยแต่ละเส้นมีพื้นที่ตัดเส้นละ 2.5
ตารางมิลลิเมตร นอกจากนั้นจะมีชื่อบริษัทผู้ผลิตด้วย
ในสภาพการณ์ปกติ ตามธรรมชาติสายไฟฟ้า
จะมีความต้านทานไฟฟ้าเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย
ซึ่งจะมีผลให้พลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ( Heat
) ซึ่งเรียกว่า เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นในสายไฟฟ้าเส้นนั้น และทำให้เกิดอุบัติภัยทางไฟฟ้าขึ้น
เช่น เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และ ไฟฟ้ารั่ว ได้
2. ฟิวส์ ( Fuse )
รูปสัญลักษณ์ของฟิวส์ คือ
ฟิวส์
( Fuse )
หมายถึง
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็นส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า
เพื่อป้องกันอันตรายอันเกิดจากกระแสไฟฟ้าเข้าวงจรไฟฟ้ามากเกินไป
หรือไฟฟ้าเกิดการลัดวงจร
หน้าที่ของฟิวส์ -ใช้ตัดวงจรไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ
เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านวงจรมากเกินไป
หรือเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
สมบัติของฟิวส์ -
มีจุดหลอมเหลวต่ำ
โดยปกติดเมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านฟิวส์
จะทำให้ฟิวส์ร้อน ความร้อนนี้จะยังไม่มากพอที่จะทำให้ฟิวส์หลอมละลาย
แต่ถ้ากระแสไฟฟ้าผ่านมากเกินปกติ เช่น เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จะทำให้ฟิวส์หลอมละลายขาดออกจากกัน
ฟิวส์จึงช่วยตัดวงจรไฟฟ้าก่อนที่จะเกิดอันตรายจากการที่กระแสไฟฟ้าผ่านมากเกินปกติ
หรือไฟฟ้าลัดวงจร ขนาดของฟิวส์จึงถูกกำหนดให้เป็นค่าของกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ผ่านได้
โดยฟิวส์ไม่ขาด
ภาพ ฟิวส์ ชนิดต่าง ๆ
3. สะพานไฟ ( Cut Out )
ภาพ สะพานไฟ
- สวิตช์ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเปิด-ปิด วงจรไฟฟ้าส่วนที่เราต้องการ โดยการต่ออนุกรมกับเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ
ภาพ การต่อสวิตช์ต้องต่ออนุกรมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ภาพ เต้าเสียบ
-
ฟิวส์ที่มาตรฐานจะทำด้วยโลหะผสมระหว่าง ตะกั่ว ( Pb ) ดีบุก ( Sn ) และ
บิสมัส ( Bi )
- ฟิวส์ ที่ใช้กันตามบ้านมีหลายขนาด เช่น 5 , 10 , 15 , 30 ฯลฯ แอมแปร์
-
ฟิวส์ ขนาด 15 แอมแปร์
หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า ฟิวส์นี้ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ไม่เกิน
15 แอมแปร์ ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเกินกว่า 15 แอมแปร์ ฟิวส์จะหลอมละลาย ( ขาด )
ฟิวส์อัตโนมัติ
คือ ฟิวส์ที่มีสวิตช์ตัดวงจรไฟฟ้าอัตโนมัติ เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเกินไป
ภาพ เซอร์กิต เบรกเกอร์
เซอร์กิต
เบรกเกอร์ ( Circuit Breaker )
หมายถึง ฟิวส์อัตโนมัติที่จะตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินกำหนด
หรือมีไฟฟ้าลัดวงจรเกิดขึ้น
3. สะพานไฟ ( Cut Out )
-
สะพานไฟ หรือคัทเอาท์
เป็นอุปกรณ์ตัด-ต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคาร
- ประโยชน์
ช่วยให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยในการซ่อมแซม หรือติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยยกสะพานไฟฟ้าลงเพื่อตัดวงจรไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านเมื่อซ่อมแซมหรือติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว
จึงยกคันโยกของสะพานไฟเข้าสูที่เดิมให้แน่นสนิทเข้ากับที่รองรับ
เพื่อต่อวงจรไฟฟ้าให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ตามปกติ
ภาพ สะพานไฟ
ภาพ ส่วนประกอบของสะพานไฟ
ในสะพานไฟจะมีฟิวส์ต่ออยู่ด้วย สะพานไฟมีหลายขนาด เช่น 10 ,
30 , 100 แอมแปร์
- สะพานไฟ ขนาด 30 แอมแปร์ หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า
สะพานไฟนี้ยอมให้ปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ไม่เกิน 30 แอมแปร์
โดยปกติสะพานไฟขนาดใหญ่จะใช้เชื่อมให้กระแสไฟฟ้าทั้งหมดไหลผ่านเข้าสู่วงจรไฟฟ้าในบ้าน
ซึ่งสะพานไฟขนาดใหญ่จะเชื่อมต่อกับสายไฟฟ้าที่มาจาก มาตรวัดพลังงานไฟฟ้า เข้ากับวงจรไฟฟ้าในบ้าน และใช้สะพานไฟขนาดรองลงมาเชื่อมต่อเพื่อเอากระแสไฟฟ้าไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในส่วนต่าง
ๆ ของห้องหรือของบ้าน (ดังภาพ)
ภาพ การต่อเชื่อมโยงจากสะพานไฟใหญ่กับสะพานไฟรอง
4. สวิตช์ ( Switch )
- สวิตช์ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเปิด-ปิด วงจรไฟฟ้าส่วนที่เราต้องการ โดยการต่ออนุกรมกับเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ
ภาพ การต่อสวิตช์ต้องต่ออนุกรมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
-
สวิตช์ ขนาด 5 แอมแปร์ หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า สวิตช์นี้ทนกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด
5 แอมแปร์ และใช้กับความต่างศักย์ไฟฟ้าได้สูงสุด 220 โวลต์
ภาพ สวิตช์ ขนาด 5 แอมแปร์
สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้ามาก ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ควรใช้ ฟิวส์อัตโนมัติหรือเซอร์กิตเบรกเกอร์
มาใช้ควบคุมแทนเพราะสามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าสวิตช์
- สวิตช์ แตกต่างจากสะพานไฟหรือคัทเอาท์
ตรงที่สวิตช์ตัดวงจรไฟฟ้าเพียงสายเดียว แต่สะพานไฟหรือคัดเอาท์ตัดวงจรไฟฟ้าทั้ง 2
สาย
5. เต้ารับและเต้าเสียบ ( Receptacle และ
Attachment plug )
- เต้าเสียบ
คือ
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดมากับเครื่องใช้ไฟฟ้า
จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตเครื่องใช้
ไฟฟ้า ที่จะต้อง ให้เต้าเสียบมากับเครื่องใช้ไฟฟ้า
-
เต้า รับ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อสายไฟเป็นวงจรเปิด และจะครบวงจรเมื่อต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
-
หน้าที่ของเต้ารับ เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง
ๆ
ภาพ เต้าเสียบ
ภาพ เต้ารับ ชนิด 2 ตา และชนิด
3 ตา
-
ตัวเลขและตัวอักษร ที่ระบุบนเต้ารับหรือเต้าเสียบ เช่น ระบุว่า 15 A 220 V หมายความว่าอย่างไร
-หมายความว่า เต้ารับหรือเต้าเสียบ นี้ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้สูงสุด 15 แอมแปร์ และใช้กับไฟฟ้าความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงสุด
220 โวลต์
-
เต้ารับ (ปลั๊กตัวเมีย) มี 2 ชนิด คือ
เต้ารับ 2 ตา เต้ารับ 3 ตา
- เต้าเสียบ (ปลั๊กตัวผู้) มี 2 ชนิด คือ เต้าเสียบ 2 ขา เต้าเสียบ 3 ขา
- การต่อเต้ารับและเต้าเสียบ
แตกต่างกันอย่างไร แตกต่างกัน คือ เต้ารับต่อเข้ากับวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
ส่วนเต้าเสียบต่อเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้า
- เต้ารับและเต้าเสียบ ชนิด 3 ตา เป็นเต้ารับและเต้าเสียบที่มีขาโลหะ 3 ขา หรือ
3 ช่อง ซึ่งช่องและขาที่เพิ่มขึ้นมาเป็นตำแหน่งที่ต่อกับสายดิน ถ้าเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วขึ้นมา
กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสายดินและลงดินไปไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ขณะจับเครื่องใช้นั้น
วิธีการใช้เต้ารับและเต้าเสียบ
1.
เวลาใช้เต้าเสียบจะต้องแน่นสนิทกับเต้ารับ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้สะดวก
แต่ถ้าเต้าเสียบหลวมหรือโยกคลอน จะมีผลทำให้เกิดความต้านทานไฟฟ้าสูงตรงรอยต่อของเต้ารับและเต้าเสียบ
ทำให้เกิดความร้อนขึ้นบริเวณนั้น จนอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น